ถังแรงดันทำหน้าที่ หน่วงเวลาในการทำงานของปั้มสูบน้ำในการทำงานของปั้มน้ำและหยุดการทำงานของปั้มน้ำ (Start-Stop) ให้มีช่วงเวลานานมากขึ้น เพื่อช่วยให้ปั้มน้ำมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น
วิธีการติดตั้งถังแรงดันน้ำ
1. ตำแหน่งวางถังแรงดันส่วนใหญ่นิยมติดตั้งใกล้ปั้มน้ำ
2. ข้างใต้ถังแรงดัน ทางเข้าควรต่อเข้ากับข้อต่อสามทางโดยทางเข้าอีกด้านติดตั้งประตูน้ำเอาไว้ เพื่อปล่อยน้ำออกจากถุงไดอะแฟรม ส่วนอีกด้านรอน้ำเข้าจากปั้มน้ำ
3. ด้านท่อทางเข้าของหัวแรงดันควรติดตั้งสวิงเช็ควาล์วและประตูน้ำ โดยที่สวิงเช็ควาล์วนั้นจะทำการเจาะรูตรงแผ่นลิ้นเช็ควาล์วขนาด 5-10 มม. ติดตั้งโดยใช้ด้านลูกศรของสวิงเช็ควาล์วสวนทางกับทางเดินของน้ำเข้า สวิงเช็ควาล์ลเจาะรู จะจ่ายลดแรงกระแทกของน้ำที่เข้าไปในถุงไดอะแฟรม
4. ติดตั้งเพรสเชอร์สวิทซ์ และเพรสเชอร์เกจ โดยที่การตั้งค่าของเพรสเชอร์สวิทซ์ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
5. ตั้งค่าแรงดันลมในถังแรงดันให้เท่ากับการสตาร์ทของปั้มน้ำ หรือน้อยกว่าการสตาร์ทของปั้มน้ำ 0.1 บาร์ เช่น ปั้มน้ำเริ่มทำงานที่ 3 บาร์ หรือ 2.9 บาร์
วิธีการตรวจเช็คถังแรงดันน้ำ
การตรวจเช็คลมในถังแรงดันน้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหมายถึงอายุการใช้งานของถังแรงดันน้ำ ดังนั้นควรตรวจเช็คลมในถังแรงดันทุก 3 เดือน ดังนี้
1. ตรวจเช็คว่าปั้มน้ำเริ่มทำงานที่กี่บาร์ และหยุดทำงานที่กี่บาร์ เช่น ปั้มน้ำเริ่มทำงานที่ 3 บาร์ หยุดทำงานที่ 4 บาร์
2. ปิดระบบไฟฟ้า
3. ปิดประตูน้ำ (หมายเลข 1) ด้านทางเข้า และเปิดประตูน้ำ (หมายเลข 2) ด้านใต้ถังแรงดัน เพื่อระบายน้ำในถุงไดอะแฟรม
4. ตรวจเช็คแรงดันลมในถังแรงดันว่าปกติหรือไม่ กรณีที่ถังแรงดันลงต่ำกว่าเกณฑ์ ให้เติมเพิ่มจนถึงเกณฑ์ที่กำหนด
5. ปิดประตูน้ำ (หมายเลข 2) เปิดประตูน้ำ (หมายเลข 1) เปิดระบบไฟฟ้าเพื่อใช้งานตามปกติ
หมายเหตุ ในการตรวจเช็คถังแรงดันน้ำ
สนใจ พร้อมให้คำปรึกษา การใช้ถังแรงดันน้ำ
โทร 02-987-3505, 089-719-8758 www.srwinner.co.th