เพรสเชอร์เกจ [Pressure Guage]
เพรสเชอร์เกจ [Pressure Gauge] เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการวัดแรงดันของของเหลวหรือก๊าซในระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดแรงดันในท่อของระบบไฮดรอลิก (hydraulic systems) ระบบลม (pneumatic systems) หรือระบบการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การเลือกใช้เพรสเชอร์เกจที่เหมาะสมสามารถป้องกันปัญหาในการทำงานของระบบได้เป็นอย่างดี
เพรสเชอร์เกจ Pressure Gauge : อุปกรณ์สำคัญในระบบการวัดแรงดัน
ประเภทของเพรสเชอร์เกจ Pressure Gauge
เพรสเชอร์เกจมีหลายประเภท ซึ่งสามารถจำแนกตามลักษณะการทำงานหรือการใช้งาน
1 เพรสเชอร์เกจแบบบูร์ดอง (Bourdon Tube Pressure Gauge)
เป็นประเภทที่พบได้มากที่สุด ประกอบด้วยหลอดบูร์ดองที่มีรูปร่างเป็นโค้ง ภายในมีของเหลวหรือก๊าซ เมื่อแรงดันเพิ่มขึ้น หลอดบูร์ดองจะคลายโค้ง ซึ่งการเคลื่อนที่นี้จะถูกแปลงเป็นการหมุนของเข็มบนหน้าปัด ทำให้สามารถอ่านค่าแรงดันได้โดยตรง
2 เพรสเชอร์เกจแบบไดอะแฟรม (Diaphragm Pressure Gauge)
ใช้ไดอะแฟรมที่ทำจากวัสดุยืดหยุ่น เช่น ยางหรือโลหะ เมื่อแรงดันเกิดขึ้น ไดอะแฟรมจะเปลี่ยนรูปทรง ซึ่งการเปลี่ยนรูปนี้จะถูกแปลงเป็นค่าการวัดแรงดัน ข้อดีของเกจประเภทนี้คือความไวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของแรงดัน
3 เพรสเชอร์เกจแบบดิจิตอล (Digital Pressure Gauge)
ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ในการตรวจวัดแรงดันและแสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอลบนจอแสดงผล ข้อดีของเพรสเชอร์เกจดิจิตอลคือความแม่นยำสูงและสามารถเชื่อมต่อกับระบบควบคุมอัตโนมัติได้
หลักการทำงานของเพรสเชอร์เกจ Pressure Gauge
เพรสเชอร์เกจทำงานโดยการแปลงแรงดันของของเหลวหรือก๊าซให้เป็นการเคลื่อนที่เชิงกล ซึ่งส่วนมากจะใช้หลอดบูร์ดองหรือไดอะแฟรมเป็นตัวตรวจจับ เมื่อมีแรงดันเข้ามาในระบบ หลอดบูร์ดองหรือไดอะแฟรมจะเกิดการเปลี่ยนรูปและส่งผ่านการเคลื่อนที่นี้ไปยังเข็มที่แสดงผลแรงดันบนหน้าปัด
การเลือกเพรสเชอร์เกจ Pressure Gauge
การเลือกใช้เพรสเชอร์เกจ (Pressure Gauge) อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การวัดแรงดันมีความแม่นยำและปลอดภัย ดังนั้น หลักการในการเลือกใช้เพรสเชอร์เกจสามารถพิจารณาได้ดังนี้:
1. ช่วงแรงดันการทำงาน (Pressure Range)
– เลือกเพรสเชอร์เกจที่มีช่วงแรงดันสูงกว่าการใช้งานจริงประมาณ 25-50% เพื่อให้แน่ใจว่าเกจจะไม่ทำงานที่ความดันสูงสุดของมันบ่อย ๆ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งาน
– หากใช้งานในระบบที่มีแรงดันแปรผันสูง ควรเลือกเพรสเชอร์เกจที่ทนต่อการสั่นสะเทือนและความดันกระชาก
2. ขนาดหน้าปัด (Dial Size)
– ขนาดหน้าปัดควรเลือกตามความสะดวกในการอ่านค่า หากเป็นสถานที่ที่อยู่ห่างไกลหรืออ่านค่าได้ยาก ควรเลือกหน้าปัดที่ใหญ่ขึ้น เช่น 4 นิ้วหรือมากกว่า เพื่อให้เห็นตัวเลขชัดเจน
3. ประเภทของแรงดัน (Pressure Type)
– เลือกประเภทเพรสเชอร์เกจตามแรงดันที่ต้องการวัด เช่น
– เกจวัดแรงดันแบบเกจ (Gauge Pressure) สำหรับการวัดแรงดันที่เป็นบวกหรือลบเทียบกับบรรยากาศ
– เกจวัดแรงดันสุญญากาศ (Vacuum Pressure) สำหรับการวัดแรงดันต่ำกว่าค่าบรรยากาศ
– เกจวัดแรงดันแบบสัมบูรณ์ (Absolute Pressure) สำหรับการวัดแรงดันเทียบกับแรงดันศูนย์ (สุญญากาศสมบูรณ์)
4. วัสดุของตัวเครื่องและอุปกรณ์ภายใน (Material)
– วัสดุของเพรสเชอร์เกจควรสอดคล้องกับสารที่ใช้ในระบบ เช่น
– สแตนเลสสตีล (Stainless Steel) สำหรับของเหลวหรือก๊าซที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
– ทองเหลือง (Brass) สำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องเจอกับสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
5. ความแม่นยำ (Accuracy)
– เลือกเพรชเชอร์เกจที่มีค่าความแม่นยำเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียด ควรเลือกเกจที่มีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำ
6. ชนิดของการเชื่อมต่อ (Connection Type)
– เลือกชนิดของเกลียวและขนาดการเชื่อมต่อที่ตรงกับระบบท่อหรืออุปกรณ์ เช่น NPT, BSP และระบุว่าจะติดตั้งด้านบน (Bottom) หรือด้านหลัง (Back)
7. สภาพแวดล้อมการใช้งาน (Operating Environment)
– หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือน ควรเลือกเกจที่มีของเหลวเติมภายใน (Liquid-filled) เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนที่จะทำให้การวัดไม่แม่นยำ
– เลือกเกจที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงหรือต่ำ หากใช้งานในสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูง
8. มาตรฐานและใบรับรอง (Certifications)
– ตรวจสอบว่าเพรชเชอร์เกจที่เลือกมีมาตรฐานการรับรองที่เหมาะสมตามการใช้งาน เช่น มาตรฐาน ANSI, ASME หรือ CE
การเลือกเพรชเชอร์เกจอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
การบำรุงรักษาเพรสเชอร์เกจ Pressure Gauge
การบำรุงรักษาเพรสเชอร์เกจ การบำรุงรักษาเพรสเชอร์เกจเป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุการใช้งานและรักษาความแม่นยำในการวัดแรงดัน ควรทำการตรวจสอบและสอบเทียบเกจอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทำความสะอาดหน้าปัดเพื่อให้สามารถอ่านค่าได้ชัดเจน
ข้อควรระวังในการใช้งานเพรสเชอร์เกจ Pressure Gauge
- หลีกเลี่ยงการใช้เพรสเชอร์เกจในสภาวะที่มีแรงดันเกินพิกัดที่กำหนด
- ไม่ควรใช้เพรสเชอร์เกจที่มีการชำรุด หรือมีรอยรั่ว
- ตรวจสอบการติดตั้งให้แน่นหนาและมั่นคงเพื่อป้องกันการรั่วไหลของของเหลวหรือก๊าซ